ตอนนี้ Vistra เรามีคอลลาเจน ไตรเปปไทด์ 10000 mg มาแล้วจ้า

หนูว่าแบบผงมันคาวนะ จิงๆ

ด้วยความสงสัยใคร่รู้ จึงได้เกิดรีวิวนี้ค่ะ เชื่อว่าหลายคนคงสัยสัยว่า ไอ้เจ้า Vistra Collagen Peptide 1200 มก. กับ Vistra Collagen Peptide 4000 mg นอกจากเป็นเม็ด กับ เป็นผง แล้ว มีอะไรแตกต่างกันอีกบ้าง อึดอัดจริงๆ มาดูกันที่ Vistra Collagen Peptide 4000 กันก่อนนะคะ   VISTRA COLLAGEN PEPTIDE 4000 คอลลาเจนเข้มข้น แบบผง ชงดื่ม    เป็นคอลลาเจนแบบผง ชงน้ำดื่ม มี 2 รส คือ รสส้ม และ รสแอปเปิ้ลเมล่อน คอลลาเจนแบบผงนี้จะให้ปริมาณคอลลาเจนมากกว่า Collagen Peptide 1200 ที่เป็นแบบอัดเม็ด เพราะถ้าเอาคอลลาเจนขนาด 4000 มก. มาอัดเป็นเม็ด คงจะได้เม็ดใหญ่กว่านิ้งโป้งเป็นแน่แท้ ใน Vistra Collagen Peptide 4000 นอกจาก คอลลาเจนแล้ว ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่จำเป็นอย่างเช่น วิตามินอี วิตามินบี และที่สำคัญคือวิตามินซี ที่ช่วยกระตุ้นให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังทำงานได้ดี และทำให้คอลลาเจนที่เรารับประทานเข้าไปมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ และด้วยความที่เป็นคอลลาเจนแบบชง แอดมินว่ามันเป็นเครื่องดื่มอร่อยๆ แก้วหนึ่ง ในเวลาที่เราอยากได้เครื่องดื่มเย็นๆ มีประโยชน์ เจ้า Vistra Collagen Peptide 4000 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ สำหรับคนที่เป็นเบาหวาน หรือกำลังควบคุมน้ำตาล ฟังทางนี้ก่อนนะคะ เพราะใน Vistra Collagen Peptide 4000 นี้ มีน้ำตาลอยู่ด้วย 2 กรัม  ดังนั้นการกินคอลลาเจนแบบเม็ด หรือ แบบชงที่ไม่ได้แต่งรสชาติน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าค่ะ คราวนี้เราลองมาดู Vistra Collagen Peptide 1200 แบบเม็ดกันบ้างนะคะ VISTRA COLLAGEN PEPTIDE 1200 แบบเม็ด ผสมโคเอ็นไซม์ คิวเท็น พกพาสะดวก Vistra Collagen Peptide 1200 นี้เป็นคอลลาเจนแบบเม็ด ซึ่งเป็นโมเลกุลแบบเปปไทด์เหมือนกันค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณคอลลาเจนน้อยกว่าแบบผงชงน้ำก็ตาม แต่ที่น่าสนใจคือ เป็นคอลลาเจนที่ให้ปริมาณ Q10 ถึง 30  มก. ซึ่งเทียบเท่ากับ ซื้อ Collagen แบบนี้แล้วได้ Q10 เพิ่มอีกหนึ่งขวด เจ้าตัว Conenzyme Q10 มีหน้าที่หลักในการเป็นพลังงานให้กับเซลล์ ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายผิวพรรณ และมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนัง  ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวนะคะ ^^  นอกจากนี้ ยังมีวิตามินซี 60 มก. ที่สำคัญเป็นคอลลาเจนแบบเม็ด รับประทานง่าย ไม่ยุ่งยากค่ะ พกพาสะดวกค่ะ ส่วนเรื่องของผลลัพธ์ ว่ารับประทานคอลลาเจนแล้วดียังไง ได้ผลแบบไหน ตัวไหนดีกว่ากัน คิดว่าพวกคอลลาเจนถ้าเรารับประทานอย่างต่อเนื่อง ในปริมาณที่เพียงพอ (3000 – 6000 มก. / วัน) ผลลัพธ์ในเรื่องของผิวพรรณน่าจะเห็นความแตกต่างอยู่แล้วค่ะ ที่สำคัญการรับประทานคอลลาเจนที่ถูกต้องคือให้รับประทานตอนท้องว่างควบคู่กับวิตามินซีนะคะ